บิ๊กซี จัดทริปส่งความสุขท้ายปี “บิ๊กซี เที่ยววิถีข้าวไทย 2566” ครั้งที่ 5 ณ จังหวัดเชียงราย
โครงการเพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรต่อเนื่องเป็นปีที่ 15
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จํากัด (มหาชน) ผู้นำในการส่งเสริมเกษตรกรไทยและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย และโรงแรมเฮอริเทจเชียงราย โฮเท็ล แอนด์ คอนเวนชั่น โดยได้รับการสนับสนุนกิจกรรมจากข้าวยี่ห้อต่างๆ อาทิ ข้าวพนมรุ้ง, ข้าวมาบุญครอง, ข้าวธรรม, ข้าวปิ่นเงิน, ข้าวแสนดี, ข้าว A Rice, ข้าวหงษ์ทอง, ข้าวเบญจรงค์, ข้าวตราไก่แจ้, ข้าวสยามปราณา, ข้าวบัวชมพู, ข้าว Green Niche, ข้าวพิมาย, ข้าวตราฉัตร, ข้าวแฮปปี้ ไพรซ์ และข้าวแฮปปี้ ไพรซ์ โปร จัดทริป “บิ๊กซี เที่ยววิถีข้าวไทย 2566” ครั้งที่ 5 โดยมีนายสมบูรณ์ เหมธรรมา VP Operation และคุณสุชาดา ศรีทองสุก AVP Commercial-DF และผู้บริหารของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ พาสมาชิกบิ๊กพ้อยต์ที่บริโภคข้าวของไทย จำนวน 40 ท่าน เที่ยวเมืองรอง แอ่วเจียงฮาย สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติพร้อมร่วมกิจกรรม ณ ไร่รื่นรมย์ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาชุมชนเกษตรอินทรีย์ จ.เชียงราย ไหว้พระรับพลังบวกเสริมพลังบุญสุดเอกซ์คลูซีฟกับ ดร.คฑา ชินบัญชร และเต็มอิ่มกับกิจกรรมมากมาย เมื่อวันที่ 1-3 ธันวาคม 2566 โดยมีบริษัท ซิลเวอร์ สโตน ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด จำกัด เป็นผู้ดำเนินการพาท่องเที่ยว
ทริป “บิ๊กซี เที่ยววิถีข้าวไทย 2566” ครั้งที่ 5 เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ กระจายรายได้สู่ชุมชน สร้างรอยยิ้มให้ผู้ประกอบการไทย เป็นทริปเดียวที่ให้ครอบครัวสมาชิกบิ๊กพ้อยต์เที่ยวครบ 3 อิ่ม คือ "อิ่มสุข อิ่มบุญ และอิ่มท้อง"
คณะเราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง นั่งเครื่องไม่นานประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย เมื่อไปคณะราก็นั่งรถตู้ VIP เดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง "เชียงฮาย" กันทีนที
"อิ่มสุข" กับเข้าเยี่ยมชมท้องนาออแกนิค รับพลังธรรมชาติ ณ "ไร่รื่นรมย์" ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย ฟาร์มสเตย์สุดชิลล์ พื้นที่ทดลองใช้ชีวิต กินดี อยู่สบาย ใช้ชีวิตคูลๆ แบบเพียงพอ บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ที่เปลี่ยนการพักผ่อนแบบธรรมดาๆ ที่ให้ได้อะไรมากกว่าเดิม เรียนรู้การใช้ชีวิต ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เปิดประสบการณ์พักผ่อนในรูปแบบใหม่ที่เรียกได้อย่างเก๋ไก๋ว่า “Organic Life Style” ร่วมทำกิจกรรมสนุกสนานหรรษากับการโยนต้นกล้าลงนาข้าว และเวิร์คช้อปในการทำผ้ามัดย้อม สร้างสรรค์ลายผ้าย้อมสีตามธรรมชาติด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นงานมาสเตอร์พีซ ซึ่งมีเพียงผืนเดียวในโลก หลังชื่นชมผลงานผ้ามัดย้อมอย่างชื่นมื่น ก็ทานอาหารกลางวันลิ้มรสอาหารออแกนิค ผักปลูกเอง สดใหม่ส่งตรงจากฟาร์มถึงโต๊ะอาหารกันเลย มีเมนูเป็น ข้าวยำไร่ทุ่ง สลัดผักย่าง แกงเลียงน้ำกุ้งสด ทอดมันกระเจี๊ยบ ยำจิงจูฉ่ายทอดกรอบ ปอเปี๊ยะไร่รื่นรมย์ และยำมะม่วงโบราณ
อิ่มอร่อยกับอาหารออแกนิคแล้ว คณะเราก็เดินทางไป "อิ่มบุญ" กัน ไหว้พระรับพลังบวก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระขอพรที่วัดอันสวยงามของเชียงราย เริ่มที่ "วัดร่องขุ่น" ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ออกแบบและก่อสร้างโดย "อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์" ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2540 ด้วยแรงปณิธานที่มุ่งมั่นรังสรรค์ศาสนสถานที่สวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลปะที่งดงามแปลกตา ผสานวัฒนธรรมล้านนาได้อย่างกลมกลืน คณะเราก็ต้องเดินผ่านสระน้ำขนาดใหญ่ ข้ามสะพานที่หมายถึงการเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านขึ้นไปพบกับพระราหูอยู่เบื้องซ้าย และพญามัจจุราชอยู่เบื้องขวา สระน้ำด้านล่างหมายถึงสีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยกัน 6 ชั้น ผ่านสวรรค์ 6 ชั้น เดินลงไปสู่พรหม 16 ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 16 ดอกรอบพระอุโบสถศิลปะลวดลายปูนปั้นงดงามอลังการบริเวณทางเดินเข้าสู่ตัวพระอุโบสถสีขาวที่มีความงดงามประดับด้วยกระจกสีเงินแวววาวงดงามตระการตาและลวดลายปูนปั้นอันวิจิตรที่อ่อนช้อยประณีตเป็นเอกลักษณ์ ภายในพระอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ รวมถึงประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามประณีตที่เห็นแล้วต้องตะลึง โดยเฉพาะภาพพระพุทธองค์หลังพระประธานที่ใหญ่งดงามมาก ชมความงดงามของพระอุโบสถแล้ว
คณะเราก็ไปชมจุดเช็กอินแห่งใหม่ของวัดนั่นคือ “ถ้ำศิลป์” หรือ "Cave of Art" ที่อยู่ใกล้กับประตูด้านหลังติดลานจอดรถ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานวิจิตรนี้กว่า 6 ปี เมื่อเดินเข้าไปในถ้ำก็ต้องตื่นตาตื่นใจ เพราะมีความสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการ ศิลปะที่งดงาม รวมทั้งพระพุทธรูป หินงอกหินย้อย แต่ค่อนข้างวังเวง เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ ภายในจะสื่อถึงทุกขภูมิขุมนรก “ความทุกข์” เมื่อผ่านพ้นความทุกข์ก็จะเข้าสู่ความสุข ซึ่งเป็นประตูพระนิพพานและสรวงสวรรค์พุทธภูมิ และเกิดความสงบหลุดพ้น โดยมีเสียงสวดทำนองอินเดียบรรเลงประกอบแสงสีเสียงตลอดเส้นทาง
ชมประติมากรรมที่สวยงามแล้ว คณะราก็เดินทางต่อไปที่วัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กั และมีความเชื่อกันว่าหากใครมาเยือนจะรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ มี "พระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส" เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เมื่อไปถึงคณะเราก็จะเห็นความสูงใหญ่ของ "พบโชคธรรมเจดีย์" ที่สร้างขึ้นตามนิมิตของพระอาจารย์พบโชคที่ฝันเห็น ใช้เวลาในการก่อสร้าง 999 วัน เป็นเจดีย์สูง 9 ชั้น ศิลปะจีนผสมล้านนาสง่างาม มีมังกรทอดยาวทั้งสองข้างบันได ล้อมรอบด้วยเจดีย์จำลองขนาด 12 ราศี ภายในเจดีย์จะมีเจ้าแม่กวนอิม12 ปาง ซึ่งแต่ละปางก็จะขอพรแตกต่างกันไป เช่น เจ้าแม่กวนอิมปางเภสัช ขอพรในเรื่องของการเจ็บป่วยให้หาย, เจ้าแม่กวนอิมปางปราบมารสามหน้า ขออโหสิกรรมในเรื่องของเจ้ากรรมนายเวร, เจ้าแม่กวนอิมปางประธานยศ-ตำแหน่ง, เจ้าแม่กวนอิมปางประทานทรัพย์ ประทานในเรื่องติดขัดเรื่องการเงิน ธุรกิจการค้า เป็นต้น เมื่อเดินเข้าไปที่ชั้นแรก เราจะพบกับพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์ปางประทานพรและอภัยทานองค์ใหญ่มาก สร้างด้วยไม้จันทน์หอมมาจาก 3 ประเทศคือ จีน เมียนมา และอินเดีย ใช้เวลาแกะสลักนาน 108 วัน มีความกว้าง 7 เมตร สูง 7 เมตร เมื่อเดินขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นเจ้าแม่กวนอิมปางประทับยืน, ชั้น 3 เจ้าแม่กวนอิมปางประทับนั่ง, ชั้น 4 หลวงพ่อพระพุทธโสธรจำลองสร้างด้วยไม้, ชั้น 5 เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ, ชั้น 6 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) และหลวงปู่ทวด, ชั้น 7 พระพุทธรูปปางนาคปรก ถือว่าเป็นชั้นสวรรค์ดาวดึงห์ ปกป้องคุ้มครองปฐพี, ชั้น 8 พระสังกัจจายน์หรือพระศรีอริยเมตไตรย เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ประทานทรัพย์ ประทานพร และชั้น 9 พระอิศวร จากนั้นก็เดินทางไปกราบสักการะ "องค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่" ที่พระอาจารย์พบโชคสร้างตามนิมิต มีความสูง 69 เมตร สูงเท่ากับตึก 26 ชั้น สามารถขึ้นลิพท์ไปดูวิวที่สวยงามของเมืองเชียงรายได้ที่ชั้น 22-23 ทีนี่ยังมีบริการอาหารเครื่องดื่มในราคา 20 บาททุกเมนู รสชาติดีมาก โดยเป็นบริการของทางวัดเองที่ให้เด็กๆที่พระอาจารย์พบโชคได้อุปถัมภ์มาให้บริการ และมีบริการล้างรถในราคา 20 บาท รวมทั้งภัตตาคารพบโชค โรงอาหารสำหรับเด็กกำพร้าและคนชราประมาณ 200 กว่าชีวิตที่พระอาจารย์พบโชคท่านอุปการะเลี้ยงดูกินฟรี นอกจากนี้ยังมีพบโชคคลีนิค รักษาโรคฟรี
ตกเย็นคณะของเราก็ดเดินทางไป "อิ่มท้อง" กับอาหารพื้นเมืองรสเลิศที่ "ร้านอาหารโตกตอง" มื้อนี้คณะเราทานอาหารขันโตกแสนอร่อย พร้อมชมโชว์การแสดงรำพื้นบ้านที่สวยงาม โดยมีนายสรรเสริญ ศีติสาร รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ตัวแทนนายวิสูตรบัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย กล่าวต้อนรับ
หลังอิ่มเอมกับอาหารพื้นบ้าน คณะเราก็เดินทางเข้าพัก ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่ถือว่าดีที่สุดโรงแรมหนึ่งในจังหวัดเชียงราย มีห้องพัก 321 ห้อง และห้องประชุมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวม 10 ห้อง สามารถรองรับได้มากกว่า 1,500 คน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและครบครันที่สุด สามารถจัดงานประชุมสัมมนา งานจัดเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งงาน รวมไปถึงการจัดนิทรรศการระดับนานาชาติ (MICE) โดยทางโรงแรมฯ ได้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA Extra Plus) และเป็นสมาชิกสมาคมโรงแรมไทย (THA) โรงแรมฯ ถูกออกแบบอย่างหรูหราได้มาตรฐานลงตัวในทุกดีไซน์ตามระดับสากล รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสะท้อนถึงศิลปะวัฒนธรรมล้านนา มีล็อบบี้ต้อนรับอันโอ่โถง ล็อบบี้เลาจน์ออกแบบสไตล์ล้านนาร่วมสมัย ด้วยภาพวาดสีละท้อนถึงศิลปะพื้นบ้านของชาวเชียงราย รวมทั้งยังมีห้องอาหารนานาชาติ ศูนย์ออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ รวมถึงพื้นที่สีเขียว สวนสวยปกคลุมด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายในโรงแรมฯ ยังมีการติดตั้งเครื่องไบโอโซน (BIOZONE ระบบ Photoplasma Technology) นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคและกำจัดไวรัสแบคทีเรีย เชื้อรา ได้ถึง 99.99% และยังถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาทางด้านมลพิษในอากาศและพื้นผิวสัมผัส รวมทั้งกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้อากาศภายในโรงแรมฯ บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ในการเข้ามาใช้บริการ ห้องนอนก็โอ่อ่า สะอาดสะอ้าน นอนหลับพักผ่อนฝันดีอย่างสบายอุรา การบริการก็สุดแสนประทับใจ ผู้เข้าพัก รวมทั้งคณะเราต่างยกนิ้วให้ว่า เยี่ยมยอดสุดๆ
นอนหลับพักผ่อนบนเตียงนุ่มๆ เช้าวันใหม่คณะเราก็อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชาติของโรงแรม คณะเราก็เดินทางไปอิ่มุญกันที่ "พระธาตุดอยเขาควายแก้ว" ต.รอบเวียง อ.เมืองจ.เชียงราย เป็นวัดที่เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพุทธกาลราว 1,000 กว่าปี สร้างโดยพระยาธรรมมิกะราช เจ้าผู้ครองเมืองเชียงราย ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ข้อมือนิ้วก้อยข้างซ้ายของพระพุทธเจ้า ที่คณะสงฆ์เข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนล้านนา ได้นำมาถวายให้พระยาธรรมมิกะราช วัดนี้เป็นที่รู้จักจาก "แมงสี่หูห้าตา" สัตว์ประหลาดในตำนาน ซึ่งจะต้องกินถ่านไฟแดงร้อนๆ เป็นอาหาร และขี้ออกมาเป็นทองคำ รวมถึงมีตำนานของ "ควายเผือกแก้วเขาแสง" ที่เป็นที่มาของชื่อดอยแห่งนี้ด้วย
กราบขอพรแมงสี่หูห้าตาแล้ว คณะเราก็เดินทางไปอิ่มบุญกันต่อที่ "วัดร่องเสือเต้น" ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อชมความงามของพระอุโบสถสีน้ำเงิน สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ศิลปะแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่มีความสวยงดงามแปลกตา แฝงด้วยหลักธรรมคำสอนของพุทธองค์ จากฝีมือการรังสรรค์ของ "นายพุทธา กาบแก้ว" หรือ "สล่านก" ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ "อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์" เมื่อเข้าไปยังวัดร่องเสือเต้น พวกเราก็ต้องตื่นตาตื่นใจไปความสวยงามของวัด ที่มีความแตกต่างจากรูปแบบการสร้างวัดทั่วๆ ไปเริ่มตั้งแต่ซุ้มประตูวัดสุดอลังการที่สร้างเป็นพญานาคท้าวมุจลินทร์และปู่ศรีสุทโธ ถัดเข้าเป็นวงเวียน ที่ประดิษฐาน "พระอุปคุต" สีขาวมุก พระอัครสาวกของพระพุทธเจ้า กลางน้ำพุใต้ร่มเงาดอกบัว มีปลาสีน้ำเงินจากป่าหิมพานต์รายรอบพระองค์อยู่ แล้วก็ถึงพระวิหารที่ใช้โทนสีเป็นโทนสีน้ำเงินฟ้าที่ให้ความรู้สึก สงบ เย็นสบายตา ตัดกับลวดลายผนังที่อ่อนช้อยโทนสีขาวทอง ที่ดูพลิ้วไหวดุจดั่งสายน้ำ ทำให้มีความโดดเด่นเรื่องสีสันที่แปลกตาไปจากวัดทั่วไป โดยเฉพาะประติมากรรมบันไดพญานาคที่ใช้เฉดสีเดียวกันนั้นมีความชดช้อยและลวดลายแตกต่างจากประติมากรรมทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ส่วนพญานาคหน้าพระวิหาร "สล่านก" ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของ "อ.ถวัลย์ ดัชนี" ที่เน้นลักษณะโครงสร้างที่เข้มแข็ง เขี้ยวเล็บแหลมคมดูน่าเกรงขาม แต่มีความพลิ้วไหวอ่อนช้อยในแบบล้านนา ภายในวิหารมีผลงานจิตรกรรมภาพวาดฝาผนังเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ โดยใช้เฉดสีน้ำเงิน มีลวดลายที่อ่อนช้อยงดงาม ประดิษฐาน "พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" พระประธานสีขาวมุกขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.50 เมตร มีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก รวมทั้งยังได้รับพระราชทานนามว่า "พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" ที่หมายความว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคล เจ้าในความเป็นราชา เป็นที่พึ่งในสามโลก” ผู้คนที่ได้เข้ามาในตัววิหารต่างศรัทธาเลื่อมใส พร้อมกราบไหว้สักการะเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเอง ที่ด้านหลังวิหารยังมีพระพุทธรูปสีขาวปางห้ามญาติองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ ถัดไปคือ "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์" สูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
จากนั้นคณะเราก็เดินทางไปกราบสักการะ "อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช" ถ.ห้าแยกพ่อขุน ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พ่อขุนเม็งรายมหาราช เป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญของชาวเชียงราย ผู้ก่อตั้งอาณาจักรเชียงรายให้เกรียงไกรในอดีต อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เป็นดังแลนด์มาร์กของเชียงราย พระรูปของพระองค์หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหนึ่งเท่าครึ่งทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องทรงพระมหากษัตริย์แบบล้านนาโบราณ ประทับยืนบนฐานสูงประมาณ 3 เมตร ทรงถือดาบด้วยพระหัตถ์ซ้ายแนบกับพระเพลา ทรงสวมมาลัยพระกรและสวมพระธำมรงค์ที่พระหัตถ์ขวาตรงนิ้วนางและนิ้วก้อย และตรงนิ้วชี้ที่พระหัตถ์ข้างซ้าย และทรงฉลองพระบาท ที่ฐานใต้พระบรมรูปมีคำจารึกว่า "พ่อขุนเม็งรายมหาราช พ.ศ. 1782-1860 ทรงสร้างเมืองเชียงรายขึ้นเป็นเมืองแรกเมื่อ พ.ศ. 1805 ทรงสถาปนาอาณาจักรล้านนาไทยให้เป็นปึกแผ่น และทรงสร้างความสามัคคีระหว่างชนชาติไทย" รู้จักพ่อขุนเม็งราย พ่อขุนเม็งรายเป็นกษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงศ์ลวะ เป็นโอรสของพญาลาวเม็งและพระนางเทพคำขยาย หรือพระนางอั้วมิ่งจอมเมืองประสูติเมื่อวันอาทิตย์ แรม 9 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ พุทธศักราช 1782 และเสด็จสวรรคตที่เมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 1854 รวมพระชนมายุได้ 72 พรรษา ด้านหลังองค์อนุสาวรีย์ มีตุงหลวงมหามงคลเฉลิมพระเกียรติสีทองอร่ามขนาดใหญ่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กับชาวเชียงรายพร้อมใจกันสร้างถวาย
หลังกราบพ่อขุนเม็งรายมหาราชแล้ว คณะเราก็เดินทางไปเยี่ยมชมบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาเชียงราย รวมทั้งวื้อเครื่องอุปโภค บริโภค อุปกรณ์การเรียน กีฬา และสิ่งจำเป็นต่างๆ ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมบริจาคให้แก่โรงเรียนและนักเรียนในชุมชน ณ "โรงเรียนวัดทรายขาว" โดยมีผู้ใหญ่ในชุมชน คณะครู-นักเรียนโรงเรียนวัดทรายขาว มาร่วมให้การต้อนรับ พร้อมรับชมการแสดงที่สวยงามจากนักเรียน
ปลาบปลื้มอิ่มใจการบริจาคแล้ว คณะเราก็เดินทางไปทานอาหารเย็นกันที่ "ร้านอาหารเรือนนลิน" อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองภาคเหนือริมแม่น้ำกก แล้วก็เดินทางไปเดินเล่นช้อปสินค้ากันที่ไนท์ บาซ่าร์ เชึยงราย ณ บริเวณขนส่งเก่า ก่อนที่จะพักผ่อน ณ ห้องนอนแสนอบอุ่นของโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น
เช้าวันรุ่งขึ้น คณะเราก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เดินทางไปสวดมนต์อธิษฐานจิตเพื่อขอพร รับพลังบวกเสริมพลังบุญแลเป็นสิริมงคลสุดเอกซ์คลูซีฟกับดร.คฑา ชินบัญชร ที่ "วัดมังคลถาวราราม" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดขัวแคร่" ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของศิลปะกรรม พระมหาวิหารหลวงพญาเจ้ามังรายมหาราช รวมถึงซุ้มประตูของวิหารที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ วิจิตรสวยงามอ่อนช้อยมากๆ สีสันสวยงาม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก และยังมีเจดีย์สีขาว ที่ด้านบนเป็นสีทองไปจนถึงปลายเจดีย์ ส่วนรอบๆ พระมหาวิหารก็จะมีการสร้างคล้ายกับประตูทางเข้าในแต่ละมุม ซึ่งจะมีสีสันแตกต่างกันออกไป เพราะทางเข้าทั้ง 4 มุมนี้ ไม่เหมือนกันเลย ซึ่งรอบๆ พระเจดีย์ก็จะมีพระพุทธรูปตั้งอยู่ในแต่ละบานประตู มีฝั่งละ 5 องค์ รวมแล้วทั้งหมด 4 ฝั่งด้วยกัน รวมไปถึงมีรูปปั้นช้างสารสีขาว
และร่วมผ้า "องค์พระธาตุดอยตุง" พระธาตุประจำปีเกิด ปีกุน ณ "วัดพระมหาชินธาตุเจ้า" หรือเรียกโดยทั่วไปว่า "วัดพระธาตุดอยตุง" ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่าหน้าอกของดอยนางนอน ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร ตามตำนานเล่าว่า พระธาตุดอยตุงสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ (ปัจจุบันคือ อ.แม่จัน) พระมหากัสสปะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) แล้วมอบให้แก่พระเจ้าอชุตราชได้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุนั้นไว้บนดอยแห่งนี้ ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ แล้วจึงได้ให้ทำตุง (ธง) มีความยาว 1,000 วา ปักบนยอดเขา หากตุงปลิวไปถึงที่ใดก็กำหนดให้เป็นฐานของพระเจดีย์ ทั้งนี้พระองค์ได้พระราชทานทองคำให้พวกลาวจกเป็นค่าที่ดิน และให้พวกมิลักขุ 500 ครอบครัวดูแลรักษาพระธาตุ ต่อมาในสมัยเจ้ามังรายนราชแห่งราชวงศ์สิงหนวัติ พระมหาวชิรโพธิเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย 50 องค์ เจ้ามังรายนราชจึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม นับจากนั้นเป็นต้นมาพระธาตุดอยตุงจึงได้มีเจดีย์สององค์มาจนถึงทุกวันนี้
หลังร่วมห่มองค์พระธาตุแล้ว ก็ได้เวลาอาหารกลางวันมื้อนี้คณะเราก็ทางไปทานอาหารกันที่ "ร้านอาหารดอยตุง ลอร์ด" จากนั้นคณะเราก็เดินทางไป Check in ร้านกาแฟสุดชิลบนดอยผาหมี นั่นก็คือ "ร้านสวนคุณปู่ Life Musuem" คาเฟ่ลับที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางหุบเขาผาหมี รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่ต้องมาเยือน เมนูก็จะเน้นไปทางกาแฟ ที่กลิ่นคั่วกาแฟหอมมาแต่ไกล โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยังมีขนมเค้ก อาหารจานเดียวให้ได้อิ่มท้องกันด้วย เมื่อไปถีงที่ร้านจะมีรถรางมารับ เพราะทางลงค่อนข้างชัน หรือจะเดินลงเขาไปประมาณ 50 เมตร บอกเลยว่าขาลงไม่เท่าไหร่ แต่ขาขึ้นจะเหนื่อยนิดนึง เมื่อถึงร้านปุ๊ป คณะเราก็ตรงดิ่งไปสั่งเค้กและเครื่องดื่มเย็นๆ ก่อนเลย แล้วก็ไปเลือกที่นั่งกันตามอัธยาศัย โดยตัวร้านมี 2 ชั้น คณะเราบางคนก็เดินขึ้นไปนั่งที่ชั้น 2 ที่มีที่นั่งชิลๆ ห้อยขาสบายๆ ชมวิว บางคนก็เลือกนั่งที่ชั้นแรก เพราะว่าวิวดี มองเห็นภูเขา บ่อน้ำ ต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆ ได้ชัดเจนเต็มตา ที่นี่ยังมีมุมไฮไลท์ ให้เราได้มุ้งมิ้งลงไปเดินเล่น นั่งชิล ถ่ายรูปเซลฟี ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากวิวหลักล้าน ที่มีบ่อน้ำเลี้ยงฝูงปลาคาร์ป และเห็นวิวภูเขาสลับทับซ้อนกันอยู่ด้านหลังแบบ 180 องศาเลย สวยมากจริง ๆ
หลังจากเซลฟี่ถ่ายรูปจนหนำใจ คณะของเราก็เดินทางลงจากดอยผาหมี ไปทานอาหารกันที่ "ร้านอาหารสลุงคำ" อิ่มท้องกับอาหารพื้นเมืองรสเลิศในเชียงราย แวะซื้อของฝาก ก่อนอำลา จ.เชียงราย เดินทางสู่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
*** ช้อปที่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงบิ๊กซี มาร์เก็ต บิ๊กซี ฟู้ดเพลส และบิ๊กซี มินิ พิเศษ! สมาชิกบิ๊กพ้อยท์ ยิ่งสะสมมากยิ่งได้มาก ทุกการใช้จ่าย 25 บาท = 1 คะแนน ใช้คะแนนแลกรับส่วนลดทันทีเช็คโปรโมชั่นดีๆ ทุกวันเพิ่มเติมได้ที่ www.bigc.co.th หรือเฟซบุ๊ก Big C https://www.facebook.com/BigCBigService บิ๊กซี คอล แชท ช้อป ไลน์หรือโทร.มาช้อป จัดส่งภายในวัน คลิกแอดไลน์สาขาใกล้บ้าน https://corporate.bigc.co.th/callchatshop
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น