รมว.ท่องเที่ยวฯ และผู้ว่า ททท. นำทีมผู้บริหารระดับสูง ททท. เข้ารับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรี กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ


รมว.ท่องเที่ยวฯ และผู้ว่า ททท. นำทีมผู้บริหารระดับสูง ททท.

เข้ารับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรี

กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ



        นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำคณะผู้บริหาร ททท. และ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ในประเทศ 45 สำนักงาน เข้ารับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566



        โดยรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และสามารถสร้างงานและกระจายรายได้ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก




       รวมถึง 4 แนวคิดที่พูดถึง คือ  

• เรื่องแรก "การส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง" การส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวนั้นไม่เพียงแต่ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักที่เป็นเขตเศรษฐกิจ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ชลบุรี เท่านั้น แต่เราต้องเร่งต่อยอดและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ “เมืองรอง” ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่เมืองรองมากขึ้น โดยเน้นนำจุดเด่นของแต่ละพื้นที่มาใช้ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่ที่สวยงาม หรือผลิตภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ขอให้ ททท. ช่วยกันหาจุดแข็ง จุดเด่น ของพื้นที่ท่าน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองรอง




• เรื่องที่สอง "การช่วยกันส่งเสริมให้ประเทศไทยไม่มี Low Season" เมืองไทยเรา เที่ยวได้ทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อนของไทยที่เต็มไปด้วยเทศกาล เช่น สงกรานต์ ก็ถือเป็นหน้า High Season สำหรับนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง และหน้าหนาวของไทย ก็พร้อมรับนักท่องเที่ยวจากหลายๆประเทศที่หนาว และก็มีเทศกาลบางอย่างที่เริ่มจัดในช่วงที่อากาศเย็น




• เรื่องที่สาม "การพัฒนาการเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยว" อยากให้ ททท. ในฐานะที่ท่านเป็นด่านหน้าของการท่องเที่ยว ให้พัฒนาการให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น เป็นตัวช่วยที่ทำให้นักท่องเที่ยววางแผนการเที่ยวได้อย่างง่ายดาย มีหลายภาษา มีช่องทางพูดคุยติดต่อหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุก Time Zone เพื่อให้คนสามารถมาเที่ยวประเทศไทยได้ทุกเวลา ขอให้ใช้ข้อมูลวิเคราะห์นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ทำให้แหล่งข้อมูลของพวกท่านเป็น Customer-centric มากขึ้น รวมทั้งเว็บไซต์และแหล่งข้อมูลที่ดี การเรียบเรียงข้อมูลที่เข้าใจง่าย การประชาสัมพันธ์ที่หลากหลาย จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผน และทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจมาเที่ยวได้อย่างแน่นอน




และเรื่องที่สี่ "การทำให้นักท่องเที่ยวเราจับจ่ายมากขึ้นต่อหัว" โจทย์สำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกประการหนึ่งคือการเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อทริป ประเทศไทยเรามีอัตลักษณ์ วัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่ผมเชื่อว่าคนไทยเองก็สามารถเที่ยวได้เป็นเดือน วันนี้เราจะต้องทำให้โลกรู้ว่าอัตลักษณ์เหล่านั้นมีดี และเป็นจุดแข็งที่จะดึงให้นักท่องเที่ยวอยู่ให้นาน จับจ่ายให้เยอะขึ้น หรืออาจจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่สามารถเพิ่มวันพักค้างของนักท่องเที่ยว เมื่ออยู่นานขึ้น การใช้จ่ายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย



      สุดท้ายนี้ การประชุมในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่จะร่วมกำหนดทิศทาง การส่งเสริม การท่องเที่ยวประเทศไทยร่วมกันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยวในประเทศ 1 ล้านล้านบาท ในปี 2567

        สำหรับตัวชี้วัด ขอให้พิจารณาและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการใช้จ่ายต่อทริปให้สูงขึ้น และเพิ่มจำนวนวันพักให้อยู่นานขึ้น ซึ่งจะทำให้มีการใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น 

ซึ่งทัังหมดนี้จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในภาคเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ 

 #โมเมนท์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอ 

#เที่ยวไทย365วัน 

#365วันมหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พิธีเททองหล่อหลวงพ่อพระนาคปรก ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดมัชฌิมาวาส

"ฉลอม" ประธาน TFOPTA นำทีมสมาชิก ลงพื้นที่จังหวัดระยอง จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568

"𝐃𝐔𝐑𝐈𝐀𝐍 𝐅𝐄𝐒𝐓 𝟐𝟎𝟐5" บุฟเฟ่ต์ทุเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พร้อมเสิร์ฟแล้ว ที่สวนละไม